Lexus CT200h ที่สุดแห่งยนตรกรรม HYBRID LUXURY HATCHBACK ซึ่งเป็นนวัตรกรรมแห่งยานยนต์ที่ผสมผสานการขับขี่อันเร้าใจ เข้ากับความเป็นเลิศแห่งการประหยัดน้ำมัน ขุมพลังกว่า 136 แรงม้า ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า มีอัตราการเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 10.3 วินาที แต่กลับประหยัดน้ำมันถึง 24.39 กิโลเมตรต่อลิตร
สัมผัสประสบการณ์ที่พิเศษสุดกับ
Lexus CT200h ที่โดดเด่นด้วยสไตล์โฉบเฉี่ยว สมรรถนะชั้นเยี่ยม ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นระดับเวิล์ดคลาส พร้อมแนวคิดรักษาสิ่งแวดล้อม
Lexus CT200h สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ในสไตล์ของคุณเองได้ถึง 4 รูปแบบ ทั้งนี้ โครงสร้างของ Lexus CT200h ถูกพัฒนาให้มีความแข็งแกร่งและมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ จึงสามารถรองรับระบบส่งกำลังไฮบริดได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้คุณสามารถสัมผัสความพิเศษสุดของการขับขี่ในรูปแบบใหม่ได้อย่างแท้จริง
Lexus CT200h Exterior
CT200h ใช้ปรัชญาการออกแบบในยุคใหม่ของเลกซัส คือ L-finesse ที่ผสานความหรูหรา ความสะดวก และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว โดยเน้นความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ นอกจากให้ความสวยงามและประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนแล้ว ยังช่วยลดเสียงลมปะทะเมื่อใช้ความเร็วสูงอีกด้วย
เพิ่มความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแนวนอนซึ่งได้รับอิทธิพลมาจาก LF-Ch พร้อมตราสัญลักษณ์ประจำค่ายที่ดูหรูหราและให้ความรู้สึกที่สง่างาม ไฟหน้าเป็นไฟแบบ LED สำหรับ daytime running lights ที่ตอบรับเส้นสายของกระจังหน้า กันชนหน้ายื่นนูนออกเล่นระดับเส้นสายเสริมมิติ
ในส่วนกันชนหน้ายังติดตั้งไฟตัดหมอกทรงกลมที่มุมล่างซ้ายและขวาเพื่อเพิ่มความส่องสว่างขณะขับขี่บนท้องถนนที่มีทัศนวิสัยย่ำแย่ แก้มข้างออกแบบทรงโป่ง ฝากระโปรงหน้าแบบกว้าง ซุ้มล้อดึงโป่งสัน สันกระจกหน้าลาดเอียง กระจกมองข้างขนาดใหญ่ คิ้วขอบออกแบบได้สวยงาม มือเปิดประตูห้องโดยสารสีเดียวกับตัวถัง หลังคาโค้งสูงพอประมาณ
ส่วนด้านท้ายเริ่มด้วยไฟท้ายแบบ 2 ชิ้น ประกอบด้วย ไฟท้ายบนตัวถังและบนประตูท้าย โคมไฟท้ายเล่นลวดลายภายในเสริมความสวยงาม ซึ่งมาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามตรงสปอยเลอร์ พร้อมด้วยกันชนท้ายที่ดีแบบไซน์สปอร์ต
Lexus CT200h Interior
ภายในห้องโดยสารถูกออบแบบอย่างพิถีพิถันตามหลัก Ergonomics ที่สัมผัสได้ถึงความสปอร์ตและความหรูหราและยังถูกออกแบบด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีที่มีมาตรฐานครบครัน เช่น เมาส์ตัวควบคุมการใช้งานแบบศูนย์รวม จอแอลซีดีขนาด 8 นิ้ว เบาะนั่ง Bucket Seat ซึ่งวางตำแหน่งไว้ต่ำตามสไตล์รถสปอร์ต มาตรวัดที่มีลูกเล่นที่ตอบสนองต่อการขับขี่ เช่น ในโหมดสปอร์ต แสงในชุดมาตรวัดจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีแดง เป็นต้น ทั้งนี้ ภายในห้องโดยสารยังถูกออกแบบให้กว้างขวางด้วยความจุ 345 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงความจุจะเพิ่มเป็น 700 ลิตร
Lexus CT200h ยนตกรรม Hybrid หรู เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-i ความจุ 1,797 ซีซี แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเทคโนโลยี Atkinson Cycle และระบบควบคุมการหมุนเวียนไอเสีย EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation ที่มีการติดตั้งระบบระบายความร้อน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมมลภาวะจากไอเสีย
ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบ มอเตอร์ซิงโครนัส (มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ) แม่เหล็กถาวร พัฒนาระบบเกียร์ทดกำลังให้มีขนาดเล็กลง และเบายิ่งขึ้น แต่รองรับการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้นได้ดี กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ (80 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร ที่ 13,500 รอบต่อนาที แบตเตอรีเป็นแบบ Ni-MH หรือ Nickel–Metal Hydride
ขุมพลังเทคโนโลยีไฮบริด ซึ่งมีโหมดการใช้งาน 4 โหมดเพื่อตอบสนองกับ Lifestyle การขับขี่ที่แตกต่างกันไป
1. โหมดการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน หรือ ECO Mode ซึ่งระบบจะเลือกใช้งานร่วมกันระหว่าง มอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ โดยเน้นการใช้พลังงานอย่างประหยัดที่สุด
2. โหมดการขับขี่แบบธรรมดา NORMAL Mode ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์เช่นกัน
3. โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต หรือ SPORT Mode ระบบจะใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองการขับขี่อย่างทันใจ
4. โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ EV Mode ที่อาศัยกระแสไฟฟ้า จากแบตเตอรี่แบบนิกเกิล-เมทัล ไฮดราย (NiMh) เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนช่วงสั้นๆ โดยสามารถขับขี่ได้ไกลสุด 1.2 ไมล์ หรือเกือบ 2 กิโลเมตร ที่ความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตร/ชั่วโมง การขับเคลื่อนจึงเงียบสนิท ไร้มลพิษ และไม่สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
